วันนี้ (17 ก.พ.2565) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรับมนตรี และ รมว.พลังงาน ชี้แจงในที่ประชุมสภาฯ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ กรณีน้ำมันราคาแพง โดยระบุว่า ประเทศไทยพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศ 90% และสัดส่วนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติ 31% ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาพลังงานแพงขึ้น คือ กลุ่มโอเปกพลัส ความขัดแย้งระหว่างประเทศมหาอำนาจ ความต้องการมากขึ้น อากาศหนาวเย็นนานขึ้น รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนอ่อนตัวลง
ส่วนกรณีที่ไม่ลดภาษีสรรพสามิตและเลือกใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น กระทรวงพลังงานได้เริ่มเข้าไปใช้กองทุนน้ำมันตรึงราคาน้ำมันดีเซล ตั้งแต่เดือน พ.ย.2563 ขณะนั้นราคาน้ำมันดิบเริ่มสูงขึ้น ผู้เชี่ยวชาญหลายคนคาดว่าสาเหตุเพราะอากาศแปรปรวน หนาวผิดปกติ ทำให้ความต้องการพลังงานเพิ่มสูง โดยคาดว่าประมาณเดือน มี.ค.2564 จะค่อยๆ ผ่อนคลายลง และหากจะใช้เงินถึงวันที่ 31 มี.ค. จะต้องกู้เงินมาอุดหนุนประมาณ 3 หมื่นล้านบาท โดยขอให้ กพช.เตรียมการรองรับ กระทั่งช่วงกลางเดือน ธ.ค. ราคาน้ำมันดิบลดลง แต่กระทรวงพลังงานยังคงตรึงราคาไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร เพื่อลดภาระประชาชน
แต่อย่างไรก็ตามในเดือน ม.ค.-ก.พ.2565 ราคาน้ำมันดิบขึ้นมามากและต่อเนื่องจากปัจจัยเรื่องรัสเซียและยูเครน ครม.จึงพิจารณาและเห็นควรยืดระยะเวลาตรึงราคาน้ำมันดีเซลออกไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค…
Read More