ภาคกลาง – ปลด “นม” พ้นสินค้าควบคุม ช่วยเกษตรกรรอดขาดทุนพร้อม ผลักดันการเพิ่มผลผลิตน้ำนม ตลอดจนเพิ่มมูลค่าการส่งออกผลและเพิ่มอัตราการบริโภคนมภายในประเทศ เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม อาจมีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับปศุสัตว์ชนิดอื่นๆ ดังข้อมูลในปี 2564 ที่มีเกษตรกรขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์ จำนวน 24,255 ราย มีจำนวนประชากรโคนมทั้งสั้น 806,441 ตัว เฉลี่ย 33.25 ตัว/ฟาร์ม กระจุกตัวอยู่ในจังหวัดสระบุรี นครราชสีมา ลพบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ และขอนแก่น แต่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมก็มีส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางอาหารให้แก่ประเทศ และเติมเต็มสารอาหารทั้งโปรตีนและแคลเซี่ยม ช่วยลดภาวะทุพโภชนาการให้แก่เด็กไทยทั่วประเทศใน “โครงการนมโรงเรียน” มายาวนานกว่า 20 ปี การมีจำนวนเกษตรกรน้อย อาจไม่มีปากเสียงส่งถึงผู้บริหารบ้านเมืองได้มากนัก ซึ่งนับว่าน่าเห็นใจ เพราะวันนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมกำลังเผชิญปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น จากอาหารโคที่ได้รับผลกระทบในเรื่องวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งมีราคาสูงขึ้นจากผลพวงของภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน และปัญหาโลกร้อน เช่นเดียวกับเกษตรกรภาคปศุสัตว์อื่นๆต้องพบเจอ ในขณะที่ต้นทุนการผลิตน้ำนมดิบสูงขึ้น แต่กลับไม่สามารถขายน้ำนมดิบได้ในราคาที่สอดคล้องกับต้นทุน เพราะ “นม” เป็นสินค้าควบคุมตลอดห่วงโซ่อุปทาน ที่ถูกคุมราคาตั้งแต่ราคานมดิบไปจนถึงราคานมกล่อง สิ่งนี้เป็นต้นเหตุให้ เกษตรกรรายย่อย หรือกลุ่มที่มีจำนวนแม่โครีดนมไม่เกิน 20
Read More